SWING Thailand ร่วมเวทีพัฒนาแผนปฏิบัติ (Action Plan) ครั้งที่ 3

วันที่ 6 ตุลาคม 2568 มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING Thailand) ร่วมกับ APCASO ภายใต้โครงการ REGENERATE Platform
ได้จัด การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาแผนปฏิบัติ (Action Plan) ครั้งที่ 3 เพื่อหารือและพิจารณาเกี่ยวกับ
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 (สมรสเท่าเทียม)
ณ ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมแมนดาริน ถนนพระราม 4 กรุงเทพมหานคร
.
การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการขับเคลื่อน สมรสเท่าเทียม
ให้เดินหน้าจาก ตัวบทกฎหมาย สู่ การปฏิบัติจริงในชีวิตผู้คน ผ่านการทำงานร่วมกันของภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชน LGBTQ+
เพื่อให้สิทธิและศักดิ์ศรีของทุกคนได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียมในสังคมไทย
.
ความร่วมมือที่เชื่อมภาครัฐและภาคประชาชน
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้บรรยากาศของความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนอย่างสร้างสรรค์
โดยมี คุณนัยนา สุภาพึ่ง ผู้จัดการโครงการและที่ปรึกษากฎหมายจาก มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ (FOR-SOGI)
เป็นประธานในที่ประชุม
.
นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและองค์กรพันธมิตรหลากหลายเข้าร่วม อาทิ
.
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข
กรมกิจการเด็กและเยาวชน
กรมสรรพากร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
เครือข่าย Bangkok Pride
ในเวทีเดียวกันนี้ SWING Thailand ได้เข้าร่วมในฐานะองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานกับชุมชนชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM),
ผู้หญิงข้ามเพศ (TGW), และพนักงานบริการ โดยมีผู้แทนองค์กร ได้แก่
.
คุณสุรางค์ จันทร์แย้ม ผู้อำนวยการ
คุณจำรอง แพงหนองยาง รองผู้อำนวยการ
คุณอรรกร สมแวง เจ้าหน้าที่โครงการ
คุณอดิเรก เรือนปิน ผู้ประสานงานโครงการ
คุณอังคณา ขันธประภา เจ้าหน้าที่บัญชีและการเงิน
คุณศิริพงษ์ ศรีเชื้อ เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กร
.
เวทีที่เปิดพื้นที่ให้เสียงทุกภาคส่วน
หัวข้อสำคัญของการประชุมในครั้งนี้คือการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ การปรับปรุงภาษากฎหมายให้มีความเป็นกลางทางเพศและครอบคลุมทุกอัตลักษณ์ทางเพศ
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมาย สมรสเท่าเทียม สามารถสะท้อนความเท่าเทียมในทางปฏิบัติได้จริง
.
ผู้เข้าร่วมได้เสนอข้อคิดเห็นร่วมกันในหลายประเด็น เช่น
.
การใช้คำว่า คู่สมรส (Spouse) แทนคำว่า สามีภริยา เพื่อไม่จำกัดเพศของผู้มีสิทธิสมรส
การปรับความหมายของคำว่า ชายหญิง ในกฎหมายให้ครอบคลุมถึงผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+)
การสร้างแนวทางการตีความและบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของเพศ อัตลักษณ์ หรือการแสดงออกทางเพศ
การประชุมยังได้ย้ำถึงความจำเป็นของการ สร้างการรับรู้และความเข้าใจในสังคม
ผ่านการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ (Strategic Communication)
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการลดอคติ และสร้างวัฒนธรรมแห่งการยอมรับความหลากหลายทางเพศ
.
Key Takeaways จากเวทีหารือ สมรสเท่าเทียม
1️ สมรสเท่าเทียม คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
การให้สิทธิในการสมรสกับทุกเพศอย่างเท่าเทียม คือการยืนยันว่าทุกคนมีคุณค่าและศักดิ์ศรีเท่ากันในสายตากฎหมาย
.
2️ ถ้อยคำในกฎหมายมีพลังมากกว่าที่คิด
การใช้ภาษากฎหมายที่เป็นกลางทางเพศไม่เพียงทำให้กฎหมายครอบคลุม
แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับความหลากหลายทางเพศในระดับโครงสร้าง
.
3️ ความร่วมมือคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลง
ทุกภาคส่วนเห็นพ้องว่าความเท่าเทียมไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยภาคใดภาคหนึ่ง
แต่ต้องเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และภาควิชาการ
.
4️ การสื่อสารอย่างเข้าใจสร้างสังคมที่ยอมรับ
การเปิดพื้นที่พูดคุยเรื่องสิทธิ ความรัก และครอบครัวของทุกเพศ
คือก้าวแรกของการสร้างสังคมที่มีความเข้าใจ และลดอคติที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
.
ก้าวเล็กที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงใหญ่
เวทีหารือครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนความพยายามร่วมกันในการปรับปรุงกฎหมาย
แต่ยังแสดงให้เห็นถึง พลังของความร่วมมือ ที่เกิดจากความเข้าใจร่วมกันว่า
ความเท่าเทียมทางเพศ คือรากฐานสำคัญของสังคมประชาธิปไตย
.
SWING Thailand ในฐานะองค์กรที่ทำงานร่วมกับชุมชนชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย คนข้ามเพศ และพนักงานบริการ
เชื่อว่าความเท่าเทียมทางเพศไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง
แต่เป็นเรื่องของ เราทุกคน ที่ต้องร่วมกันสร้าง
.
การบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมจึงไม่ใช่เพียง การแก้ไขกฎหมาย
แต่คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของสังคม
ให้ยอมรับว่าความรักทุกแบบมีคุณค่า และทุกคนมีสิทธิเท่ากันในการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี
.
สรุป
การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาแผนปฏิบัติ (Action Plan) ครั้งที่ 3
ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของประเทศไทยในเส้นทางสู่ความเท่าเทียมทางเพศ
โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาควิชาการ
เพื่อให้ Equality in Law กลายเป็น Equality in Life
ความเท่าเทียมในกฎหมายต้องเกิดขึ้นจริงในชีวิตของทุกคน
.
SWING Thailand ขอขอบคุณทุกภาคีที่ร่วมกันขับเคลื่อนและยืนยันว่า
สังคมที่เท่าเทียม เริ่มต้นได้จากความเข้าใจและการยอมรับในความแตกต่างของเรา


